Cause your shine is somethin’ like a mirror
And I can’t help but notice
You reflect in this heart of mine
If you ever feel alone and
The glare makes me hard to find
Just know that I’m always
Parallel on the other side
เธอจะไม่ให้ฉันหลงไหลในตัวตนของเธอได้อย่างไร?
ก็ในเมื่อตัวตนของเธอนั่นสะท้อนออกมาให้ฉันเห็นราวกับกระจก
เป็นเงาตามตัว ที่มีอยู่ แต่ไม่สามารถสัมผัสได้อีก
เพราะตัวเธอจริงๆ ได้ตายจากฉันไปแล้ว.
ถึงตอนนี้ฉันจะไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้,
แต่สิ่งที่ฉันสังเกตและบอกเธอได้ คือ
เธอนั้นสะท้อนอยู่ในใจของฉันเสมอ.
ดังนั้น หากเธออ้างว้างเดียวดายขึ้นมา,
แต่กระจก (ความตาย) ก็ยังคงกางกั้นสองเราไว้อย่างนี้,
สิ่งที่เธอต้องทำเพื่อกำจัดความอ้างว้างเดียวดายนั้น
ก็แค่ระลึกไว้ให้มั่นว่า
ฉันยังอยู่ในโลกคู่ขนานเคียงข้างเธอเสมอ
ดุจดังเงาในกระจกที่ตามสะท้อนเธอไม่ห่างไงหล่ะ.
(คือ คนรักตายจาก, คนที่ยังอยู่ก็เลยเคว้ง ปรึกษากับคนในความทรงจำ ที่เหมือนกับกระจกส่วนตัวว่า ถ้าคนในความทรงจำรู้สึกไม่เหลือใคร คุณจะทำยังไง, ซึ่งคำตอบก็คือตัวคนที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละ ที่ก็จะต้องยืนเคียงคู่เป้นกำลังใจให้กับคนที่จากไปแล้วในกระจก. แต่ในเมื่ออีกคนไม่อยู่แล้วในชีวิตจริง ก็เลยต้องใช้วิธีคิดถึงเอาผ่านกระจกคือความทรงจำ.)
Cause with your hand in my hand and a pocket full of soul
I can tell you there’s no place we couldn’t go
Just put your hand on the past
I’m here tryin’ to pull you through
You just gotta be strong
เพราะเรากุมมือกันไว้แล้วยังพกกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยความหลังอีก,
ฉันจึงมั่นใจที่จะบอกเธอว่า ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่เราจะฝ่าฟันไปไม่ได้.
แค่วางมือของเธอไว้บนกระเป๋าที่บรรจุความหลังของพวกเราเอาไว้,
เพราะฉันอยู่กับกระเป๋าใบนั้น รอที่จะพาเธอผ่านความอ้างว้างอันเลวร้ายนี้ไปด้วยกัน,
ขอแค่เธอเข้มแข็งเอาไว้ อย่ายอมแพ้มันเท่านั้นเอง.
(กระเป๋า ก็เป็นอีกอุปมาของคนในความทรงจำ แบบเดียวกับกระจกนั่นเอง)
Cause I don’t wanna lose you now
I’m lookin’ right at the other half of me
The vacancy that sat in my heart
Is a space that now you hold
Show me how to fight for now
And I’ll tell you, baby, it was easy
Comin’ back into you once I figured it out
You were right here all along
It’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me
I couldn’t get any bigger
With anyone else beside me
And now it’s clear as this promise
That we’re making
Two reflections into one
Cause it’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me, staring back at me
เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะพรากจากเธอไปเลย,
ฉันถึงได้เฝ้าแต่จะคิดถึงเธอซึ่งเป็นอีกครึ่งชีวิตของฉันดุจเงาในกระจก ฉันจ้องมันวนไปอยู่อย่างนี้.
ที่ว่างที่เคยมีในหัวใจของฉัน...
ตอนนี้มันก็เป็นพื้นที่ที่เธอจับจองไว้หมดทุกตารางนิ้วไปแล้ว.
บอกวิธีต่อสู้กับความโดดเดี่ยวที่ฉันเผชิญอยู่เดี๋ยวนี้ทีสิ, ได้โปรดเถอะ.
ก็ได้ฉันจะตอบแทนเธอเองนะที่รัก, แต่ก่อนมันเคยเป็นเรื่องที่ทำง่ายมากเลย,
วิธีนั้นก็คือ แค่เธอกลับมายังพื้นที่ข้างๆฉันอีกสักครั้งก็ยังดี,
พื้นที่ๆ ฉันเคยคิดมาตลอดว่า เธอจะอยู่เคียงข้างฉันไปตลอด
(แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นอย่างที่เคยคิดไว้อีกแล้ว เพราะเธอจะไม่กลับมา).
มันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
และฉันก็ไม่สามารถหากระจกบานใหญ่กว่านี้
ที่มาพร้อมกับคู่ครองคนใหม่ข้างๆ ได้อีกแล้ว.
อุปมานี้มันชัดเจนพอๆกับ สัญญาของเรา
ว่าเราจะเคียงคู่เป็นหนึ่งเดียวกันกันไปตลอดชีวิต
เหมือนเป็นเงาสะท้อนในกระจกของกันและกัน ที่ไม่มีวันแยกออกจากกันไปได้.
นั่นก็เพราะมันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
Aren’t you somethin’, an original
Cause it doesn’t seem really as simple
And I can’t help but stare, cause
I see truth somewhere in your eyes
I can’t ever change without you
You reflect me, I love that about you
And if I could, I
Would look at us all the time
เธอจะไม่ใช่คนที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นได้ยังไง?
ก็ตัวตนแบบเธอมันไม่ใช่ของธรรมดาที่หาได้ทั่วไปหน่ะสิ.
และตอนนี้ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากได้แต่มองกระจกตาปริบๆ อยู่อย่างนี้,
แต่ฉันก็ยังคงมองอยู่อย่างนั้น เพราะฉันยังคงเห็นความรักบริสุทธิ์ในดวงตาของเธออยู่เสมอ.
ไม่มีทางที่ฉันจะเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีเธอหรอก,
เพราะเธอสะท้อนฉันอยู่, และฉันก็รักภาพสะท้อนของเธอนั้นซะด้วย.
และถ้าเป็นไปได้ ฉันจะจ้องเราทั้งคู่ในกระจกแห่งความทรงจำมันอยู่อย่างนี้แหละตลอดไม่อยากทำอย่างอื่นอีกแล้ว.
Cause with your hand in my hand and a pocket full of soul
I can tell you there’s no place we couldn’t go
Just put your hand on the past
I’m here tryin’ to pull you through
You just gotta be strong
เพราะเรากุมมือกันไว้แล้วยังพกกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยความหลังอีก,
ฉันจึงมั่นใจที่จะบอกเธอว่า ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่เราจะฝ่าฟันไปไม่ได้.
แค่วางมือของเธอไว้บนกระเป๋าที่บรรจุความหลังของพวกเราเอาไว้,
เพราะฉันอยู่กับกระเป๋าใบนั้น รอที่จะพาเธอผ่านความอ้างว้างอันเลวร้ายนี้ไปด้วยกัน,
ขอแค่เธอเข้มแข็งเอาไว้ อย่ายอมแพ้มันเท่านั้นเอง.
(กระเป๋า ก็เป็นอีกอุปมาของคนในความทรงจำ แบบเดียวกับกระจกนั่นเอง)
Cause I don’t wanna lose you now
I’m lookin’ right at the other half of me
The vacancy that sat in my heart
Is a space that now you hold
Show me how to fight for now
And I’ll tell you, baby, it was easy
Comin’ back into you once I figured it out
You were right here all along
It’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me
I couldn’t get any bigger
With anyone else beside me
And now it’s clear as this promise
That we’re making
Two reflections into one
Cause it’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me, staring back at me
เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะพรากจากเธอไปเลย,
ฉันถึงได้เฝ้าแต่จะคิดถึงเธอซึ่งเป็นอีกครึ่งชีวิตของฉันดุจเงาในกระจก ฉันจ้องมันวนไปอยู่อย่างนี้.
ที่ว่างที่เคยมีในหัวใจของฉัน...
ตอนนี้มันก็เป็นพื้นที่ที่เธอจับจองไว้หมดทุกตารางนิ้วไปแล้ว.
บอกวิธีต่อสู้กับความโดดเดี่ยวที่ฉันเผชิญอยู่เดี๋ยวนี้ทีสิ, ได้โปรดเถอะ.
ก็ได้ฉันจะตอบแทนเธอเองนะที่รัก, แต่ก่อนมันเคยเป็นเรื่องที่ทำง่ายมากเลย,
วิธีนั้นก็คือ แค่เธอกลับมายังพื้นที่ข้างๆฉันอีกสักครั้งก็ยังดี,
พื้นที่ๆ ฉันเคยคิดมาตลอดว่า เธอจะอยู่เคียงข้างฉันไปตลอด
(แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นอย่างที่เคยคิดไว้อีกแล้ว เพราะเธอจะไม่กลับมา).
มันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
และฉันก็ไม่สามารถหากระจกบานใหญ่กว่านี้
ที่มาพร้อมกับคู่ครองคนใหม่ข้างๆ ได้อีกแล้ว.
อุปมานี้มันชัดเจนพอๆกับ สัญญาของเรา
ว่าเราจะเคียงคู่เป็นหนึ่งเดียวกันกันไปตลอดชีวิต
เหมือนเป็นเงาสะท้อนในกระจกของกันและกัน ที่ไม่มีวันแยกออกจากกันไปได้.
นั่นก็เพราะมันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
Yesterday is history
Tomorrow’s a mystery
I can see you lookin’ back at me
Keep your eyes on me
Baby, keep your eyes on me
อดีตมันก็แค่เรื่องเล่า
อนาคตก็ไปคาดเดาอะไรไม่ได้.
แต่ที่ฉันสัมผัสได้ตอนนี้เดี๋ยวนี้ คือ เธอยังคงจ้อง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอ.
ได้โปรด, อย่าหันเหสายตาเธอไปจากฉันนะ.
ที่รัก! โปรดเป็นกระจกสะท้อนฉันต่อไปนะ.
Cause I don’t wanna lose you now
I’m lookin’ right at the other half of me
The vacancy that sat in my heart
Is a space that now you hold
Show me how to fight for now
And I’ll tell you, baby, it was easy
Comin’ back into you once I figured it out
You were right here all along
It’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me
I couldn’t get any bigger
With anyone else beside me
And now it’s clear as this promise
That we’re making
Two reflections into one
Cause it’s like you’re my mirror
My mirror staring back at me, staring back at me
เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะพรากจากเธอไปเลย,
ฉันถึงได้เฝ้าแต่จะคิดถึงเธอซึ่งเป็นอีกครึ่งชีวิตของฉันดุจเงาในกระจก ฉันจ้องมันวนไปอยู่อย่างนี้.
ที่ว่างที่เคยมีในหัวใจของฉัน...
ตอนนี้มันก็เป็นพื้นที่ที่เธอจับจองไว้หมดทุกตารางนิ้วไปแล้ว.
บอกวิธีต่อสู้กับความโดดเดี่ยวที่ฉันเผชิญอยู่เดี๋ยวนี้ทีสิ, ได้โปรดเถอะ.
ก็ได้ฉันจะตอบแทนเธอเองนะที่รัก, แต่ก่อนมันเคยเป็นเรื่องที่ทำง่ายมากเลย,
วิธีนั้นก็คือ แค่เธอกลับมายังพื้นที่ข้างๆฉันอีกสักครั้งก็ยังดี,
พื้นที่ๆ ฉันเคยคิดมาตลอดว่า เธอจะอยู่เคียงข้างฉันไปตลอด
(แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นอย่างที่เคยคิดไว้อีกแล้ว เพราะเธอจะไม่กลับมา).
มันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
และฉันก็ไม่สามารถหากระจกบานใหญ่กว่านี้
ที่มาพร้อมกับคู่ครองคนใหม่ข้างๆ ได้อีกแล้ว.
อุปมานี้มันชัดเจนพอๆกับ สัญญาของเรา
ว่าเราจะเคียงคู่เป็นหนึ่งเดียวกันกันไปตลอดชีวิต
เหมือนเป็นเงาสะท้อนในกระจกของกันและกัน ที่ไม่มีวันแยกออกจากกันไปได้.
นั่นก็เพราะมันเป็นเหมือนกับว่า ถ้าเปรียบเธอกับกระจก,
เธอก็คงเป็นกระจกของฉันคนเดียวที่กำลังจ้องมอง(สะท้อน)ฉันอยู่เสมอทุกที่ทุกเวลา.
You are, you are the love of my life
เธอและฉันเป็นความรักในชีวิตของกันและกัน เราสะท้อนความรักของกันและกันสู่กันไปมาไม่มีวันจบสิ้น.
Baby, you’re the inspiration of this precious song
And I just wanna see your face light up since you put me on
So now I say goodbye to the old me, it’s already gone
And I can’t wait wait wait wait wait to get you home
Just to let you know, you are
ที่รัก, คุณเป็นแรงบรรดาลใจให้กับเพลงที่แสนเลอค่านี้,
และฉันเขียนมันขึ้นก็เพียงอยากเห็นรอยยิ้มเปล่งประกายบนใบหน้าของเธอ
เหมือนกับที่เธอเคยทำให้ฉันยิ้มได้นั่นไง.
แต่นี้ไป ฉันจะบอกลาตัวเอง, เพราะฉันคนเก่าที่เศร้าศร้อยอยู่กับ
การจากลาลับไปของเธอนั้น ไม่มีอยู่อีกแล้ว.
เพราะฉันไม่สามาถเฝ้ารอแล้วรอเล่า
รอแบบไม่มีทางที่ฉันจะพาเธอกลับมายังรังรักของเราได้อีก.
ฉันก็แค่แจ้งให้เธอทราบว่า...
You are, you are the love of my life
เธอและฉันเป็นความรักในชีวิตของกันและกัน เราสะท้อนความรักของกันและกันสู่กันไปมาไม่มีวันจบสิ้น.
(พาร์ทคนในกระจก:)
My reflection, in everything I do
You’re my reflection and all I see is you
My reflection, in everything I do
แม่สาวน้อย~ (ฉันขอสัญญาว่า...)
เธอจะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสะท้อนกลับ, ฉันจะเห็นแค่เธอเท่านั้นอยู่ในกระจกแห่งความทรงจำบานนี้.
ภาพสะท้อนของฉันมีแค่เธอเท่านั้น.
เธอจะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสะท้อนกลับ, ฉันจะเห็นแค่เธอเท่านั้นอยู่ในกระจกแห่งความทรงจำบานนี้.
ภาพสะท้อนของฉันมีแค่เธอเท่านั้น.
You are, you are the love of my life
เธอและฉันเป็นความรักในชีวิตของกันและกัน เราสะท้อนความรักของกันและกันสู่กันไปมาไม่มีวันจบสิ้น.
(ส่วนนี้ ทั้งวิธีร้อง และ MV จะเป็นเอคโค่และภาะสะท้อนของกระจกที่สะท้อนและซ้อนทับกันไม่จบสิ้น, แทนความไม่สิ้นสุดของความรักที่คนเป็นมีให้กับคนตายในความทรงจำ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น